จะเกิดอะไรขึ้น 9 ก.ย. วันศาลฎีกาฯ สั่ง ทักษิณ-ผบ.เรือนจำกรุงเทพฯ ฟังคำสั่ง “คดีชั้น 14” พร้อมสรุป 4 ปมสำคัญจาก วิษณุ “พยานปากสุดท้าย”

จะเกิดอะไรขึ้น 9 ก.ย. วันศาลฎีกาฯ สั่ง ทักษิณ-ผบ.เรือนจำกรุงเทพฯ ฟังคำสั่ง “คดีชั้น 14” พร้อมสรุป 4 ปมสำคัญจาก วิษณุ “พยานปากสุดท้าย”

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้นายทักษิณ ชินวัตร มาฟังคำสั่ง “คดีชั้น 14” วันที่ 9 ก.ย. หลังเสร็จสิ้นกระบวนการไต่สวน โดยมี ศ.กิตติคุณ ดร.วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ขึ้นเบิกความเป็นปากสุดท้ายในฐานะพยานของฝ่ายจำเลย

ตลอดระยะเวลากว่า 1 เดือนที่ศาลฎีกาฯ เปิดไต่สวนการบังคับโทษจำคุกแก่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดของศาลหรือไม่ หรือที่รู้จักในชื่อ “คดีชั้น 14” จำเลยได้รับอนุญาตให้ไม่ต้องมาศาล

บทสรุปของการไต่สวนเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงรวม 7 นัด เรียกพยานบุคคลรวม 31 ปากขึ้นเบิกความ จะเกิดขึ้นในอีก 41 วันข้างหน้า โดยศาลมีคำสั่งให้นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และนายทักษิณ ชินวัตร จำเลย เข้าฟังคำสั่งศาลในวันที่ 9 ก.ย. เวลา 10.00 น.

อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ต้องรับโทษจำคุกตามคำพิพากษาศาลฎีกาฯ รวมระยะเวลา 8 ปี จาก 3 คดีทุจริต ทว่าเขาไม่ได้นอนในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แม้แต่คืนเดียว เนื่องจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ส่งตัวนายทักษิณออกจากเรือนจำช่วงกลางดึกของวันที่ 22 ส.ค. 2566 ด้วย “อาการฉุกเฉิน” ต้องเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ชั้น 14 หลังจากนั้นนักโทษชายเด็ดขาด (น.ช.) รายนี้ก็ไม่ได้กลับเข้าเรือนจำอีกเลย

ในระหว่างพักอยู่ที่ รพ.ตำรวจ นายทักษิณยื่นทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาและได้รับการพระราชทานอภัยลดโทษเหลือจำคุก 1 ปี ก่อนออกจาก รพ.ตำรวจ วันที่ 18 ก.พ. 2567 หลังเข้าเกณฑ์ได้รับการ “พักการลงโทษ” เป็นกรณีพิเศษตามระเบียบกรมราชทัณฑ์

การไต่สวนนัดสุดท้าย ได้ ศ.กิตติคุณ ดร.วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรักษาการ รมว.ยุติธรรม ในรัฐบาล “ประยุทธ์” ขึ้นเบิกความในฐานะพยานเพียงหนึ่งเดียวของฝ่ายจำเลย ใช้เวลา 35 นาที โดยเขาได้จัดทำและส่งเอกสารประกอบคำเบิกความให้ศาลล่วงหน้าด้วย อย่างไรก็ตาม นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากนายทักษิณ ไม่ได้ซักถามอะไรพยานปากนี้เลย

นายวิญญัติให้เหตุผลในการยื่นชื่อนายวิษณุเป็นพยานในคดีนี้ว่าเขาเป็น “พยานที่ประจักษ์ข้อเท็จจริง” โดยรู้ถึงการกลับมาประเทศไทย การรับตัว และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่ปรากฏอาการป่วยของอดีตนายกฯ

นี่ถือเป็นคดีที่ 2 แล้วนายวิษณุปรากฏตัวกลางศาลในฐานะพยานฝ่ายจำเลย นอกจากคดีชั้น 14 ในวันนี้ ยังมีคดีมาตรา 112 ที่นายวิษณุขึ้นให้การต่อศาลอาญาไปก่อนหน้านี้ จึงน่าสนใจว่าทีมทนายความของอดีตนายกฯ โน้มน้าวอย่างไรถึงทำให้นายวิษณุถึงยอมมาเป็นพยานให้

นายวิญญัติตอบคำถามของบีบีซีไทยว่า ไม่ได้มีการโน้มน้าว แต่ได้กราบเรียนเชิญและสอบถามอาจารย์ว่ามีสิ่งใดที่จะให้ข้อเท็จจริงต่อศาลได้ เพราะเห็นว่าเป็นผู้เกี่ยวข้องและรับรู้ในฐานะรักษาการ รมว.ยุติธรรม เป็นเรื่องที่ไม่ได้สร้างข้อเท็จจริงขึ้นมา แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น จึงไปขอความกรุณาให้ท่านมาเป็นพยาน

บีบีซีไทยขอสรุปประเด็นสำคัญที่ได้จากการไต่สวน “พยานปากเอก” โดยแบ่งออกเป็น 4 ช่วงเวลาสำคัญ และเพิ่มเติมบริบทที่เกี่ยวข้องในช่วงนั้น ๆ ซึ่งคำเบิกความของนายวิษณุบางส่วนไม่ตรงกับข้อมูลที่เขาเคยสื่อสารต่อสาธารณะก่อนหน้านี้

สรุปประเด็นสำคัญจากการไต่สวน “คดีชั้น 14” 6 นัดที่ผ่านมา

  • การไต่สวนนัดแรก 13 มิ.ย. พยานเบิกความ 1 ปาก
  • การไต่สวนนัดที่สอง 4 ก.ค. พยานเบิกความ 5 ปาก
  • การไต่สวนนัดที่สาม 8 ก.ค. พยานเบิกความ 9 ปาก
  • การไต่สวนนัดที่สี่ 15 ก.ค. พยานเบิกความ 6 ปาก
  • การไต่สวนนัดที่ห้า 18 ก.ค. พยานเบิกความ 6 ปาก
  • การไต่สวนนัดที่หก 25 ก.ค. พยานเบิกความ 3 ปาก

แหล่งที่มา www.bbc.com/thai/articles/c62w5el3q1lo

Related Articles

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *